หลายวันที่ผ่านมาผมได้แต่ถามตัวเองว่า ผมก็เล่นเวทหนักนะ 5 ใน7วันสม่ำเสมอด้วย อาหารก็ไม่ขาดนะ ออกจะเกินด้วยซ้ำ แถมอาหารเสริมก็เพียบทั้ง whey protein,bcaa,vitaminรวม แต่ทำไมช่วงนี้ผมเหนื่อยง่ายกว่าเดิม แรงตกลง เหงื่ออกมาก หัวใจเต้นเร็วขึ้น บางทีเวลาที่ไม่ได้เวทแล้ว ก็มีอาการใจสั่นนิดๆอีกด้วย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเพราะทานโปรตีนมากเกินไปหัวใจจึงเริ่มมีปัญหา เหมือนที่นักเพาะะกายหลายๆคนเป็นกัน ก็ไปซื้อวิตามินBรวม กับ fish oil มาซึ่งนักเพาะกายส่วนมากมักทานเสริมเพื่อป้องกันการเป็นโรคหัวใจจากการรับประทานโปรตีนมากเกินไป ต่อมาผมไปอ่านเจอเกี่ยวกับการovertraining ปรากฏว่า อาการของผมตรงกับอาการของovertrainingมากกว่า และผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าซักวันมันจะมาแค่ไม่แน่ใจว่าเป็นหรือเปล่าเท่านั้น อาการคร่าวๆของovertrain เป็นดังนี้ครับ
- Frequent minor infections ป่วยบ่อยมากขึ้น อาจจะไม่ป่วยมาก แต่มักมีอาการ ปวดหัว เจ็บคอ น้ำมูกไหล เหมือนจะเป็นไข้ เป็นหวัด
- Chronic muscle soreness or joint pain อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ข้อต่อเรื้อรัง
- Exhaustion เหนื่อยล้า ตื่นมาก็รู้สึกเหมือนนอนไม่พอ
- Weight loss/gain น้ำหนักลด หรือเพิ่มโดยไร้สาเหตุ
- Appetite loss เบื่ออาหาร
- Increased thirst or dehydration รู้สึกกระหายน้ำอยู่ตลอดเวลา
- Intolerance to exercise ไม่สามารถออกกำลังกายได้เสร็จ หรือหยุดออกกลางคัน
- Decreased performance ความแข็งแกร่งร่างกาย กล้ามเนื้อลดลง
- Delayed recovery from exercise ร่างกายใช้เวลานานกว่าปรกติในการพักฟื้นระหว่างแต่ละเวิร์คเอาท์
- Fatigued, tired, drained, lack of energy เหนื่อย ง่วงเหงา หาวนอนตลอดเวลา
- Reduced ability to concentrate ไม่ค่อยมีสมาธิ
- Lack of motivation ความอยากที่จะออกกำลังกายหดหายไป
- Irritability หงุดหงิดง่าย
- Anxiety สับสนกระวนกระวาย
- Depression ซึมเศร้า
- Headaches ปวดหัว
- Insomnia นอนไม่หลับ
- Felling jittery ใจสั่น
ข้อ 2 ไม่เป็นครับ
ข้อ 3 เป็นทุกวันแต่อาจเป็เพราะนอนไม่พอจริงๆ เพราะว่าช่วงเดือนสองเดือนหลัง ผมมายกเวทเช้าก่อนไปทำงานตลอด เพื่อหลีกเลี่ยงคนจำนวนมากที่มาใช้บริการฟิตเนสตอนเย็น ทำให้ต้องตื่นตีห้าครึ่ง เพื่อทำอาหารไว้ทานที่ทำงานตอนเช้า และเที่ยง ทุกวัน ในขณะที่ไม่สามารถจะเข้านอนก่อนสี่ทุ่มได้เลย ทำให้หลายๆวันก็นอนเพียง 5 -6ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งต่อให้เป็นคนปรกติไม่ได้ยกเวทอย่างหนักทุกวันก็ต้องล้าและง่วงแน่นอน
ข้อ 4 ยังไม่ชัดเจนครับ อาจเป็นเพราะก็ยังทานเป็นปรกติอยู่
ข้อ 5 ยังไม่เบื่อนะครับ แต่ก็มีหลุดๆบ้างเพราะช่วงนี้ห่อข้าวอาหารมันก็จะเป็นแบบอุ่นไปไม่ใช่ทำเสร็จโดยแม่ครัวพ่อครัว มันก็จะไม่อร่อยนักครับ
ข้อ 6 มีเป็นบางครั้งเหมือนจะอยากดื่มน้ำเย็นมากๆเพื่อให้รู้สึกสดชื่น
ข้อ 7 รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นจนต้องพักแต่ละเซ็ทนานขึ้นเพื่อให้การหายใจเป็นปรกติ
ข้อ 8 ยังคงเพิ่มน้ำหนักได้ในบางท่า เหมือนกล้ามเนื้อก็ยังมีแรงอยู่แต่ไม่ค่อยทนแล้ว
ข้อ 9 ไม่ค่อยชัดเจนนักเพราะอัด BCAA เข้าไปเยอะก็เลยไม่ค่อยรู้สึกกล้ามเนื้ออ่อนล้านัก
ข้อ 10 อันนี้เป็นหนักเลยครับ เพราะหลังเล่นตอนเช้าแล้วต้องไปทำงานต่ออีก 8-9 ชั่วโมงแถมต้องผจญกับการขนส่งในกรุงเทพฯแย่ๆอีก นอนก็ไม่ค่อยพอ บางวันทำงานก็รู้สึกเบลอๆไม่ค่อยกระตือรือร้นนัก
ข้อ 11 ข้อนี้มีแน่นอนครับ เพราะมันอยากจะพักผ่อนรู้สึกเหนื่อย ไม่อยากจะทำอะไร ก็เลยไม่ค่อยมีสมาธิกับงานกับเรื่องบางเรื่อง เพราะมันเหนื่อยอยากกลับบ้านไปพักมากกว่า
ข้อ 12 ยังคงอยากไปออกกำลังอยู่แต่อยากพักมากขึ้น
ข้อ 13 เรื่องนี้ผมรู้ตัวเลยปรกติก็เป็นคนอารมณ์ค่อนข้างร้อนอยู่แล้ว พอเหนื่อยแล้วไม่ได้พัก ความหงุดหงิดก็เลยเพิ่มขึ้นอีก
ข้อ 14 ไม่ค่อยชัดเจนนักแต่จะกระวนกระวายก็ตรงไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นอะไรแน่มากกว่า
ข้อ 15 ยังไม่ค่อยเป็นนะครับ แต่พอเหนื่อยขึ้นมันก็ร่าเริงน้อยลง
ข้อ 16 ก็มีบ้างจากความดันที่สูงขึ้นครับ
ข้อ 17 ปรกติผมเป็นคนนอนง่ายครับ แต่ช่วงหลังรู้สึกง่วงนะครับ แต่พอหัวถึงหมอนกลับไม่หลับเหมือนหัวใจยังเต้นเร็ว ในหัวยังเต้นตุ้บๆ บางทีต้องลุกมาทำอะไรก่อนค่อยกลับไปนอนใหม่
ข้อ 18 ข้อนี้น่ากลัวที่สุดครับ เพราะทำให้ผมกังวลว่าผมเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า เพราะเดิมผมเป็นความดันสูงอยู่แต่ก็ทานยาอย่างสม่ำเสมอ และพอได้ออกกำลังตั้งแต่ปีที่แล้วน้ำหนักก็ลง และความดันก็ต่ำลงจนเป็นปรกติ ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าจะเป็นโรคหัวใจ แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่ไปออกกำลังช่วงเช้าก็รู็สึกว่านอนน้อยลงเพราะต้องตื่นเช้า แต่ไม่สามารถจะนอนเร็วชดเชยได้ ก็เลยกลายเป็นนอนไม่พอ ออกกำลังกายหนัก ร่างกายไม่ได้พัก ตื่นตัวด้วยวิตามินกับกาแฟ สุดท้ายก็จบลงที่overtrain
แต่ชีวิตต้องเดินต่อครับ ผมตัดสินใจพักอย่างน้อย 3 วันติด และอาจพักถึงหนึ่งสัปดาห์หากว่ายังไม่ดีขึ้น ต้องปลอบใจตัวเองว่าเรายังมีเวลาเพาะกายอีกเยอะครับ ตัวเราที่แข็งแรงทั้งกายและใจนั้นสำคัญที่สุดครับ ระหว่างนี้ผมก็จะมีเวลามาลงบทความมากขึ้น และมีเวลาทบทวนผลการจัดตารางการเพาะกายของตัวเองและปรับปรุงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก...
ข้อมูลจาก http://dropdeadhealthy.blogspot.com/